top of page

อาการหน้ามืด


อาการหน้ามืด

อาการหน้ามืดที่จะกล่าวรายละเอียดต่อจากนี้ ไม่ใช่อาการหน้ามืด ที่มักจะใช้กล่าวอ้างว่าเกิดหน้ามืด จึงเป็นเหตุให้กระทำในสิ่งไม่บังควรต่างๆ ได้ แต่จะพูดถึงอาการที่มักจะเกิดขึ้นในบางขณะที่อยู่ดีๆ ก็เกิดความรู้สึกว่าใจหวิวๆ พร้อมๆ กับความรู้สึกว่ากล้ามเนื้อแขนขา เริ่มอ่อนแรง แม้พยายามที่จะทรงตัวแล้ว ก็ยังไม่สามารถกระทำได้ ต่อจากนั้นความรู้สึกต่างๆ ก็จะวูบหายไป แล้วร่างทั้งร่างก็จะทรุดตัวลงไปนอนกับพื้นได้ทันที หากไม่มีใครรับได้ทัน การหมดสติไม่รู้สึกตัวไปครู่หนึ่งคล้ายว่าหลับสนิท อาการเหล่านี้เรียกได้ว่า อาการหน้ามืด Syncope ซึ่งมักจะได้ยินเรียกใช้ควบคู่กันกับคำว่า เป็นลม Fainting ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ถ้าสังเกตก็จะพบว่า ก่อนหน้าที่จะมีอาการหน้ามืดหมดความรู้สึกไปนั้น มักจะมีอาการหน้ามืด มีเหงื่อออกเป็นเม็ดทั่วใบหน้าและตามตัว วิงเวียน บางครั้งมีอาการบ้านหมุน มือเท้าจะเย็นชื้น บางครั้งอาจมีความรู้สึกแน่น มีลมระบายออกมาจากท้องนำมาก่อน ซึ่งอาการเหล่านี้ จะเรียกกันโดยรวมว่า อาการเป็นลม หรือ Fainting นั่นเอง

โดยที่อาการหน้ามืดหมดสตินี้ อาจเกิดจากสาเหตุที่ไม่ร้ายแรง เช่น การขาดอาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดต่ำ หรือ เกิดจากอาการเครียด สำหรับที่เกิดจากสาเหตุที่ร้ายแรงได้แก่ โรคสมองหรือภาวะหัวใจขาดเลือด เกือบ 100% เกิดจากปฏิกิริยา Vasovagal หรือ Vasodepressor Syncope ซึ่งส่งผลทำให้เกิดอาการหมดสติในทันทีทันใด เมื่อเกิดการกระตุ้นจากสิ่งกระตุ้น จะเกิดกระแสประสาทไปที่สมอง และมีการสั่งการเพื่อเพิ่มกระแสประสาทที่มาจากประสาทแห่งความตื่นตัว Sympathetic ผลก็คือ หลอดเลือดเริ่มมีการขยายตัว ความดันโลหิตจะลดลง เลือดดำไหลกลับสู่หัวใจลดลง ทำให้เลือดแดงออกจากหัวใจน้อยลงเช่นกัน สมองเริ่มขาดเลือด และหมดสติลงได้ในที่สุด หากไม่ได้รับความช่วยเหลือที่ถูกต้อง สำหรับการดูแลรักษาผู้ที่มีอาการหน้ามืดเป็นลมง่ายๆ ก็คือ

1. จัดให้นอนราบศีรษะต่ำ เพื่อให้เลือดกลับไปเลี้ยงสมองมากขึ้น 2. ปลดสิ่งรัดร่างกายที่ทำให้อึดอัด 3. พยายามทำให้บริเวณนั้น มีอากาศถ่ายเทสะดวก 4. ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามใบหน้า คอและแขนขา 5. ให้ดมแอมโมเนีย และสอนให้ผู้ป่วยหายใจช้าๆ ลึกๆ 6. ไม่ควรให้ผู้ป่วยลุกเดินจนกว่าจะรู้สึกสบายขึ้น

ในกรณีที่มีอาการหมดสตินาน ต้องไปพบแพทย์ เพื่อให้ความช่วยเหลือ และทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เพราะอย่าลืมว่าอาการหน้ามืดเป็นเพียงอาการแสดงปลายทาง ที่มาจากสาเหตุในส่วนที่ร้ายแรงได้ ดังนั้น จึงไม่ควรนิ่งนอนใจ หากมีอาการหน้ามืดนาน หรือมีอาการบ่อยๆ หรือแม้กระทั่งไม่พบว่าตนเองมีสาเหตุของอาการที่ไม่ร้ายแรงชัดเจน เหล่านี้ควรไปพบแพทย์เช่นกัน อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญถือเป็นข้อสังเกต ก็คืออาการหน้ามืดมักจะเกิดแบบทันทีทันใด ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ถึงแม้โดยธรรมชาติส่วนใหญ่สักครู่อาการต่างๆ ก็จะดีขึ้นได้เอง จากการปรับตัวของร่างกายและการได้รับความช่วยเหลือ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ เมื่อเกิดอาการขึ้น อาจจะเกิดผลจากการหมดสติชั่วคราว เช่น อาจจะเกิดอุบัติเหตุล้มลงศีรษะฟาดพื้น หรือวัสดุแข็งใกล้ๆ ตัว หรือตกจากที่สูง หรือการได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เมื่อเกิดอาการหน้ามืดขณะข้ามถนนหรือขับขี่ยานพาหนะ หรือ มีอาการสำลักเอาน้ำเข้าไปในปอด หากเกิดอาการหน้ามืดในระหว่างว่ายน้ำอยู่ หรือ อาจจมน้ำเสียชีวิต หากไม่มีผู้พบเห็นและให้ความช่วยเหลือ ก็อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ทั้งสิ้น นั่นก็เป็นเพียงข้อสังเกต และที่จะขอฝากไว้สำหรับท่านผู้อ่าน ก็คือเมื่อเริ่มรู้สึกว่าตนเองมีอาการผิดปกติ ไม่ว่าจะมีกิจกรรมใดอยู่ก็ตาม ควรที่จะหยุดพัก ไม่ควรฝืนกระทำกิจกรรมต่อไป และหาที่นั่งหรือนอนพักในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทดี สักครู่ ถ้าเป็นไปได้ก็บอกคนข้างๆ ด้วย เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ก็น่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด


กระทู้แนะนำ
Check back soon
Once posts are published, you’ll see them here.
โพสต์ล่าสุด
โพสต์เก่า
ค้นหาตามแท็ก
No tags yet.
ติดตามเราได้ที่
  • Grey Instagram Icon
  • Facebook Basic Square
bottom of page